"ข้าวพระ/ข้าวพระพุทธ คำวัดที่เราชาวพุทธควรรู้"
นำเสนอโดย พระมหาบุญโฮม ปริปุณฺณสีโล ป.ธ.๕,นธ.เอก,ศษ.บ.,MPA.(นิด้า) วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๒๙๐

         ในหนังสือพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุดคำวัด โดย พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ราชบัณฑิต) สมณศักดิ์ปัจจุบันคือ พระมหาโพธิวงศาจารย์ หน้า ๑๑๖๕ ทั้งเล่มมี ๑๕๐๓ หน้า พระเดชพระคุณท่านได้กล่าวไว้ว่า..

Image         ข้าวพระ คือ ข้าวที่จัดถวายพระพุทธ เรียกเต็มว่า ข้าวพระพุทธ

         การถวายข้าพระเลียนแบบมาแต่สมัยพุทธกาล คือในสมัยนั้นชาวพุทธนิยมเสี้ยงพระสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วและมีประเพณีสร้างพระพุทธรูปกันแล้ว เวลาทำบุญเลี้ยงพระจึงจัดที่ตั้งพระพุทธรูปไว้ด้วย เพื่อแสดงว่ายังมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และนิยมจัดอาหารถวายพระพุทธรูปด้วย

         การถวายข้าวพระพุทธ เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยอาหารเหมือนบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน มิใช่ถวายเพื่อให้พระพุทธเจ้าเสวย หรือเป็นการเช่นไหว้พระพุทธเจ้า

         ข้าวพระ ในการถวาย มีคำกล่าวถวายและคำลาโดยเฉพาะ.. โดยคำถวายข้าวพระพุทธ ว่า "อิมัง สูปะพะยัญชนะสัมปันนัง สีลีนัง โอทะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ"
--------------------------

นั่นคือ ข้อมูลและคำอธิบายอย่างย่อ ๆ เบื้องต้นที่พระเดชพระคุณได้เขียนเอาไว้ แต่เพื่อจะได้เข้าใจอย่างละเอียดแจ่มแจ้ง ติดตามอ่านต่อไปครับ


Imageเหตุผลในการจัดข้าวบูชาพระพุทธ :
          ในพิธีทำบุญเลี้ยงพระนี้ มีโบราณประเพณีที่เรียกว่า ประเพณีถวายข้าวพระพุทธ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การจัดข้าวบูชาพระพุทธ หมายถึง การบูชาพระพุทธเจ้าด้วยข้าวและอาหารอื่นๆ โดยถือสืบกันมาว่า สมัยพุทธกาล พุทธศาสนิกชนทั้งหลายนิยมนิมนต์พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานพระภิกษุสงฆ์ เสด็จไปฉันภัตตาหาร ณ เคหสถานของตนตามหลักฐานที่ปรากฏในพระบาลีว่า "พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ : พระภิกษุสงฆ์มี พระพุทธเจ้าเป็นประธาน" เมื่อถึงเวลาถวายภัตตาหาร ก็นิยมจัดภัตตาหารถวายแด่พระพุทธเจ้าเป็นพิเศษส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกับปัจจุบันที่นิยมกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช เสด็จไปเป็นประธานสงฆ์ในพิธีทำบุญงานมงคลตามบ้านเรือนคฤหบดี เมื่อถึงเวลาถวายภัตตาหาร ก็นิยมจัดภัตตาหารถวายสมเด็จพระสังฆราชเป็นพิเศษส่วนหนึ่ง และจัดภัตตาหารถวายพระภิกษุสงฆ์นอกนั้นอีกส่วนหนึ่ง ฉะนั้น ถึงแม้พระพุทธเจ้าจะได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ก็ยังนิยมอัญเชิญพระพุทธรูปมาตั้งเป็นประธานสงฆ์แทนพระพุทธองค์ในพิธีบำเพ็ญบุญต่างๆ ทุกอย่าง เช่นเดียวกันกับสมัยพุทธกาล

         ดังนั้น เมื่อถึงเวลาถวายภัตตาหาร จึงนิยมจัดภัตตาหารถวายพระพุทธรูปเป็นพิเศษส่วนหนึ่ง และจัดภัตตาหารถวายพระภิกษุสงฆ์อีกส่วนหนึ่งเช่นเดียวกับสมัยพุทธกาล คตินี้ได้นิยมสืบทอดกันมา ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า ถวายข้าวพระพุทธ ถ้ามีการตักบาตรก็ต้องตั้งบาตรพระพุทธเจ้าไว้หัวแถวด้วย

Imageชาวพุทธพึงตระหนักว่า
          การจัดภัตตาหารถวายพระพุทธรูปนี้ มิใช้จัดไปถวายพระพุทธรูปฉันเหมือนอย่างจัดถวายให้พระภิกษุสงฆ์ฉัน หรือไม่ใช่จัดไปเซ่นพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างจัดอาหารไปเซ่นภูตผีปีศาจ การจัดภัตตาหารไปถวายพระพุทธรูปนั้น เป็นการจัดไปถวายเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า เช่นเดียวกับการจัดเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัย มีดอกไม้ ธูป เทียน เป็นต้น และการจัดเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัยนั้น ไม่ใช่จัดถวายให้พระรัตนตรัยสูดดมกลิ่นธูป ควันเทียน และกลิ่นหอมของดอกไม้ แต่จัดไปเพื่อบูชาพระคุณของพระรัตนตรัย ฉันใด การจัดภัตตาหารถวายพระพุทธรูปก็เพื่อบูชาพระคุณของพระพุทธเจ้า ฉันนั้น และเมื่อลากลับคืนมา ภัตตาหารนั้นย่อมเป็นสิริมงคลน่ารับประทานนักแล

         ในพิธีทำบุญเลี้ยงพระ นิยมถวายข้าวพระพุทธ คือ จัดอาหารทุกอย่างเหมือนกับที่ถวายพระสงฆ์ (ไม่ควรจัดเป็นชุดเล็ก ๆ เหมือนกับที่จัดอาหารเซ่นผี) เสร็จแล้วพึงวางไว้บนโต๊ะหรือบนผ้าขาวที่สะอาดหน้าโต๊ะหมู่บูชา จุดธูป ๓ ดอกในกระถางธูปหน้าพระพุทธรูป นั่งคุกเข่าประนมมือกล่าวคำนมัสการว่า "นะโม ตัสสะ…….." ว่า ๓ จบ เสร็จแล้วกล่าวคำถวายข้าวพระพุทธว่า "อิมัง สูปะพะยัญชนะสัมปันนัง สีลีนัง โอทะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ ข้าพเจ้าขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับและน้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า". การกล่าวคำบูชานี้ จะว่าโดยออกเสียงดัง หรือว่าในใจโดยไม่ต้องออกเสียงก็ได้ จบแล้วกราบ ๓ ครั้ง ต่อนั้นจึงจัดถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์

Image         และเมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว เจ้าภาพ พิธีกร หรือผู้อื่นก็ได้ พึงกราบพรพุทธรูป ๓ ครั้ง แล้วประนมมือกล่าวคำลาข้าวพระพุทธว่า "เสสัง มังคะลา ยาจามิ หรือจะกล่าวว่า เสสัง มังคะลัง ยาจามิ มิ. ข้าพระพุทธเจ้าทูลขอสิ่งที่เหลือจากพระพุทธเจ้าผู้เป็นมงคล / ข้าพระพุทธเจ้าทูลขอสิ่งที่เหลืออันเป็นมงคล" ก็ได้ เสร็จแล้วกราบ ๓ ครั้งและยกภาชนะข้าวพระพุทธออกไป"

         เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว เชื่อแน่เหลือเกินว่า หากมีการทำบุญในวันข้างหน้า พวกเราชาวพุทธจะสามารถจัดข้าวพระพุทธได้อย่างถูกต้อง และจัดถวายข้าวพระพุทธเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าด้วยจิตใจเคารพ เอื้อเฟื้อและได้บุญกุศลอย่างเต็มที่และแท้จริง ครับ
----------------------------

เครดิต : ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต (ซึ่งจำชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวและวัน เดือน ปี เวลาที่สืบค้นไม่ได้แล้ว) ขออนุโมทนาเจ้าของภาพไว้ ณ ที่นี้


ที่มา.- เฟชวัดท่าไทร https://www.facebook.com/watthasai/posts/503979466403757 สืบค้นเมื่อ 1ส.ค.2559 เวลา 10.20 น.


*******************